การมอบของขวัญให้กัน
จะทำให้เรามีความสุขมากขึ้น
ช่วยกระชับความสัมพันธ์
และทำให้ผู้รับรู้สึกอบอุ่นหัวใจ
OH OH OH เทศกาลคริสต์มาส เป็นเทศกาลที่หลายคนรอคอยใช่ไหมล่ะคะ ถึงเทศกาลนี้ที่ไร หลายคนมักแฮปปี้ทุกที หากถามว่าเมื่อถึงเทศกาลคริสต์มาส ทุกคนคิดถึงอะไรกัน หลายคนบอกว่า คิดถึงซานตาคลอส คิดถึงต้นคริสต์มาส คิดถึงการท่องเที่ยว คิดถึงการกลับไปหาครอบครัวและอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ หลายคนคงคิดถึงการให้หรือการได้รับของขวัญกันใช่ไหมล่ะคะ
แล้วทุกคนรู้ไหมคะว่าการให้หรือการได้รับของขวัญในเทศกาลคริสต์มาส จะทำให้เรามีความสุขมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลดีต่อสภาพจิตใจของเราอย่างแน่นอน และเรายังเชื่ออีกว่า การให้ของขวัญกับผู้อื่นนั้น เป็นการสร้างความทรงจำที่แสนพิเศษให้กับผู้ให้และผู้รับ เพราะการให้ของขวัญแสดงถึงความรัก ความใส่ใจที่มอบให้แก่กัน ของขวัญที่ให้กันอาจจะไม่ต้องเป็นของขวัญที่มีมูลค่าสูง แต่รับรองว่าของขวัญทุกชิ้นมีมูลค่าทางใจกับผู้ให้และผู้รับแน่นอนค่ะ
วันนี้ Mental life by Chanisara จะพาทุกคนมาค้นหาคำตอบกันว่าทำไมเทศกาลคริสต์มาสถึงสร้างความสุขให้คนทั่วโลก และการให้ของขวัญจะทำให้เรามีความสุขมากกว่าการเป็นผู้รับของขวัญจริงหรือไม่?
เทศกาลคริสต์มาส สร้างความสุขให้คนทั่วโลก
เราเชื่อว่าเทศกาลคริสต์มาสเป็นเทศกาลที่พิเศษ สำหรับใครหลายๆ คน เทศกาลนี้ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี และคนทั่วโลกก็ให้ความสำคัญกับเทศกาลคริสต์มาส พอถึงเทศกาลนี้ คนส่วนใหญ่จะมอบของขวัญให้กับคนที่เรารัก หรือคนที่เราใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว เพื่อน คนรัก เพื่อนร่วมงาน การให้ของขวัญทำให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้น ความประทับใจ ความสุข และถือเป็นการสร้างความผูกพันซึ่งกันและกันนั่นเองค่ะ คริสต์มาสถือเป็นเทศกาลที่จัดพร้อมกันทั่วโลก เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ทำให้คนทั่วโลกมีความสุขในช่วงเวลาเดียวกัน
ความสุขเกิดขึ้นตั้งแต่การเลือกซื้อของขวัญ
ทุกคนรู้ไหมว่าความสุขเกิดขึ้นตั้งแต่การเลือกซื้อของขวัญแล้ว เพราะแค่เราเลือกซื้อของขวัญ สมองจะผลิตสารโดปามีนและหลั่งออกมา ซึ่งหลายคนเรียกสารนี้ว่า “สารแห่งความสุข” เพราะในขณะที่เราเลือกซื้อของขวัญ เรามักจะจินตนาการถึงการที่ผู้รับได้รับของขวัญแล้วเราจะรู้สึกพึงพอใจ แม้เรายังไม่ได้ให้ของขวัญแก่ผู้รับก็ตาม เหมือนการที่เราคาดหวังให้ผู้รับมีความสุข สะท้อนให้เห็นว่าเพียงแค่เราจินตนาการถึงการให้ของขวัญเราก็สามารถมีความสุขได้นั่นเองค่ะ
การให้ “ของขวัญ” ในวันคริสต์มาสทำให้มี “ความสุขมากขึ้น”
ทุกคนรู้ไหมการที่เราซื้อของขวัญให้บุคคลที่เรารัก หรือบุคคลที่เราใกล้ชิดจะทำให้ผู้ให้มีความสุขมากขึ้น คุณ Emiliana Simon Thomas นักประสาทวิทยาและผู้อำนวยการศูนย์วิจัย Greater Good Science Center มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับความสุข ความเมตตาและความเสียสละ ได้ศึกษาวิจัยและค้นพบว่า การที่เราให้ของขวัญกับคนที่ใกล้ชิดจะทำให้สมองหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขและความผูกพันออกมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการให้ของขวัญในวันคริสต์มาสสามารถทำให้คนเรามีความสุขมากขึ้นได้จริงๆ นอกจากนี้การให้ของขวัญยังทำให้สมองหลั่งฮอร์โมนแห่งความรักความผูกพันออกมาอีกด้วย
การให้ของขวัญทำให้สมองหลั่งฮอร์โมนแห่งความรัก ความผูกพัน
การให้ของขวัญทำให้สารเคมีในสมองที่มีชื่อว่า “ออกซิโทซีน”หลั่งออกมา ซึ่งทำให้เกิดความอบอุ่น ความผูกพัน และยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้กับผู้รับอีกด้วย คนมักจะเรียกฮอร์โมนนี้ว่า “ฮอร์โมนแห่งความรัก ความผูกพัน” เพราะฮอร์โมนนี้ทำงานในส่วนสมองที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์และความผูกพัน ซึ่งจะส่งผลระยะยาว เพราะ ทำให้เกิดความรู้สึกไว้วางใจและปลอดภัย ซึ่งมีความแตกต่างกับเวลาที่เรามีความสุขเมื่อถูกเซอร์ไพรส์ สมองจะหลั่งสารโดปามีน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดความสุขแต่ไม่ได้ทำให้เกิดความผูกพันในระยะยาว จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นจึงสะท้อนให้เห็นว่า การให้ของขวัญจึงไม่ใช่ความสุขชั่วคราวแต่เป็นความสุขที่ทำให้เกิดความรู้สึกผูกพัน และรักใคร่กันมากยิ่งขึ้น
เพราะ การเป็นผู้ให้ของขวัญ มีความสุขกว่าการเป็นผู้รับของขวัญ
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่มีชื่อว่า “A neural link between generosity and happiness”จากมหาวิทยาลัยซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คุณ Philippe Tobler และทีมของเขา ได้ทดลอง โดยได้นำคน 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งไปซื้อของให้ตัวเอง อีกกลุ่มหนึ่งไปซื้อของเพื่อผู้อื่น
และค้นพบว่าการใช้จ่ายเพื่อซื้อของขวัญให้ผู้อื่นจะทำให้เรามีความสุขมากกว่าการซื้อของขวัญให้ตัวเองอีกด้วย ดังนั้นอย่าลืมไปซื้อของขวัญให้คนที่คุณรักกันนะคะ ตัวเราจะได้มีความสุขมากขึ้นและคนที่เรารักจะได้มีความสุขเช่นกันค่ะ
การให้ของขวัญคือสิ่งที่พิเศษ เพราะนอกจากจะทำให้เกิดความสุขแล้วยังทำให้เกิดความผูกพันในระยะยาวอีกด้วย
Source
https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/1102154